เมืองเก่าน่าน (About Nan old city)


ภารกิจ
การดำเนินงานพัฒนาพื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่าน ขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) หรือ DASTA มีสาระสำคัญคือการขับเคลื่อนให้น่านเป็น "เมืองเก่าที่มีชีวิต" (Living Old City) และมุ่งสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ระดับโลก โดยมีรายละเอียดดังนี้:
-
การเป็น "เมืองเก่าที่มีชีวิต":
-
ภารกิจหลักคือการรักษาเอกลักษณ์ของน่านที่แตกต่างจากเมืองเก่าอื่นๆ (เช่น อยุธยาหรือสุโขทัย ที่เน้นโบราณสถาน) โดยน่านเป็นเมืองเก่าที่ "ผู้คนยังใช้ชีวิตอยู่จริง" ตามวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิม มีการใช้ประโยชน์จากวัดวาอารามและพื้นที่ประวัติศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เพียงซากปรักหักพัง
-
เน้นการอนุรักษ์วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม และประเพณีที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
-
-
การพัฒนาเมืองอย่างมีส่วนร่วม:
-
อพท. (DASTA) เข้ามาสานต่อแผนพัฒนาเมือง โดยเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ให้ชาวน่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและกำหนดทิศทางของเมือง
-
มีเป้าหมายร่วมกันคือการใช้ "เขตเมืองเก่า" เป็นจุดขายทางการท่องเที่ยว โดยนำเสนอผ่านวิถีชีวิต ศิลปะ และงานฝีมือ
-
-
เป้าหมายสู่ UNESCO (UNESCO Creative Cities Network):
-
ภารกิจสำคัญที่สุดที่ระบุในบทความคือ การเตรียมความพร้อมและผลักดันเมืองน่าน เพื่อเสนอชื่อเข้าชิงเป็นสมาชิก เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UCCN)
-
โดยเน้นในสาขา หัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (Crafts and Folk Arts) ซึ่งสะท้อนจากต้นทุนทางวัฒนธรรม งานฝีมือ และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ของเมืองน่าน
-
สรุปสั้นๆ คือ ภารกิจนี้คือการรักษาลมหายใจของเมืองเก่าน่านให้คงอยู่ควบคู่กับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และยกระดับเมืองให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลในฐานะเมืองสร้างสรรค์ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน

มาตรฐาน
กรอบแนวทางการพัฒนาและเกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่ อพท. นำมาประยุกต์ใช้กับเมืองเก่าน่าน เพื่อยกระดับให้เทียบเท่าสากล โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่เกณฑ์ GSTC (Global Sustainable Tourism Criteria)
คำอธิบายของมาตรฐานดังกล่าว สามารถสรุปได้เป็น 4 มิติหลัก ดังนี้:
1. มาตรฐานด้านการบริหารจัดการ (Sustainable Management)
-
การมีส่วนร่วม: ทุกโครงการในเขตเมืองเก่าน่านต้องผ่านการทำประชาคม คนน่านต้อง "เอาด้วย" ก่อน
-
แผนแม่บท: มีการกำหนดโซน (Zoning) ที่ชัดเจนว่าพื้นที่ไหนคือเขตอนุรักษ์เข้มข้น พื้นที่ไหนทำกิจกรรมเชิงพาณิชย์ได้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อวิถีชีวิตดั้งเดิม
2. มาตรฐานด้านเศรษฐกิจและสังคม (Socio-economic Sustainability)
-
การกระจายรายได้: มาตรฐานนี้เน้นว่ารายได้จากการท่องเที่ยวต้องตกถึงมือคนท้องถิ่นจริงๆ (เช่น การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP หรือหัตถกรรมพื้นบ้าน แทนสินค้าโรงงาน)
-
การจ้างงาน: ส่งเสริมให้มีการจ้างงานคนในพื้นที่ในธุรกิจท่องเที่ยว
3. มาตรฐานด้านวัฒนธรรม (Cultural Sustainability) หัวใจสำคัญของน่าน
-
Living Old City: มาตรฐานนี้กำหนดให้การอนุรักษ์ไม่ใช่แค่การซ่อมวัด แต่คือการรักษา "วิถีชีวิต" เช่น ประเพณีตักบาตรเทียน, การแข่งเรือยาว หรือภาษาคำเมือง
-
สถาปัตยกรรม: การควบคุมความสูงและรูปแบบอาคารในเขตเมืองเก่า ให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม (ภูมิทัศน์ล้านนาตะวันออก)
4. มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Sustainability)
-
Low Carbon City: น่านเมืองเก่ามีมาตรฐานที่เข้มงวดเรื่องความสะอาดและการจัดการขยะ (เช่น โครงการถนนคนเดินปลอดโฟม)
-
การท่องเที่ยวที่เป็นมิตร: ส่งเสริมการใช้รถรางนั่งชมเมือง (Tram) หรือจักรยาน เพื่อลดมลพิษในเขตเมืองเก่า
สรุปความสำเร็จจากมาตรฐานนี้
การใช้มาตรฐานเหล่านี้อย่างเข้มงวด ทำให้เมืองเก่าน่านได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย เช่น:
-
ASEAN Sustainable Tourism Standard: รางวัลมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอาเซียน
-
Green Destinations Top 100 Stories: น่านได้รับเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก
กล่าวโดยสรุป: มาตรฐาน nanoldcity คือเครื่องมือที่ใช้ควบคุมให้เมืองเก่าน่าน "เจริญขึ้นโดยไม่ทิ้งรากเหง้า" และ "นักท่องเที่ยวมีความสุขโดยไม่เบียดเบียนเจ้าบ้าน"
.jpg)

แผนพัฒนา
แผนพัฒนาพื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่าน (Nan Old City Development Plan) เป็นแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวที่ขับเคลื่อนโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ร่วมกับเทศบาลเมืองน่าน และภาคีเครือข่าย โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการทำให้เมืองน่านเป็น "เมืองท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและเมืองสร้างสรรค์"
แผนพัฒนานี้แบ่งออกเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ 4 ด้าน ดังนี้:
1. ด้านกายภาพและภูมิทัศน์ (Physical & Landscape)
แผนนี้เน้นการปรับปรุงหน้าตาของเมืองให้สวยงาม คงความขลัง แต่ใช้งานได้จริง:
-
การปรับภูมิทัศน์เมืองเก่า: การนำสายไฟฟ้าลงดินในเขตเมืองเก่า (เช่น ถนนรอบวัดภูมินทร์) เพื่อเปิดทัศนียภาพให้เห็นสถาปัตยกรรมชัดเจน
-
การจัดโซนนิ่ง (Zoning): ควบคุมความสูงและรูปแบบอาคารก่อสร้างใหม่ ให้สอดคล้องกับศิลปะล้านนาตะวันออก ไม่ให้ตึกสูงมาบดบังทัศนียภาพวัด
-
ระบบขนส่งที่เป็นมิตร: การพัฒนาเส้นทางจักรยาน และการใช้รถราง (Tram) เพื่อลดปริมาณรถยนต์ส่วนตัวในเขตเมืองเก่า ลดมลพิษทางเสียงและอากาศ
2. ด้านการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรม (Culture & Heritage)
แผนนี้มุ่งเน้นให้ "คน" และ "วัฒนธรรม" เป็นพระเอก:
-
Living Old City: สนับสนุนให้ชุมชนยังคงอยู่อาศัยในเขตเมืองเก่าได้จริง ไม่ใช่ย้ายออกจนเมืองร้าง รักษาประเพณีดั้งเดิม (เช่น ตักบาตรเทียน งานแข่งเรือ)
-
การยกระดับสู่เมืองสร้างสรรค์ (UNESCO): แผนงานหลักในปัจจุบันคือการผลักดันน่านเข้าสู่เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ (UCCN) ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน โดยสนับสนุนช่างฝีมือท้องถิ่น เช่น ผ้าทอ เครื่องเงิน ให้มีมูลค่าเพิ่ม
3. ด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Tourism)
เปลี่ยนจากการท่องเที่ยวแบบ "Mass" (เน้นปริมาณ) เป็น "Quality" (เน้นคุณภาพ):
-
การท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT): พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวที่กระจายรายได้สู่ชุมชนรอบนอก ไม่กระจุกตัวแค่ในตัวเมือง
-
กิจกรรมสร้างสรรค์: ส่งเสริมกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวได้ลงมือทำ (Workshop) เช่น การทำโคม การทอผ้า หรือการทำตุง เพื่อสร้างประสบการณ์ลึกซึ้งและเพิ่มการใช้จ่ายต่อหัว
4. ด้านการบริหารจัดการและสิ่งแวดล้อม (Management & Environment)
-
การจัดการขยะ: แผนรณรงค์เมืองน่านสะอาด ปลอดถุงพลาสติกและโฟมในพื้นที่จัดงานประเพณี
-
ความปลอดภัย: การติดตั้งกล้องวงจรปิด ปรับปรุงทางเท้า และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ (Universal Design) เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม
สรุปหัวใจสำคัญของแผน: แผนพัฒนา nanoldcity ไม่ได้ต้องการเปลี่ยนน่านให้ทันสมัยจนจำไม่ได้ แต่ต้องการ "แช่แข็งเสน่ห์ของวันวาน ให้หมุนไปพร้อมกับโลกปัจจุบันได้อย่างยั่งยืน" โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการดูแลเมือง